
- กองทุนรวมคืออะไร
- ใครเหมาะกับการลงทุนในกองทุนรวมบ้าง
- ข้อด้อยของการลงทุนในกองทุนรวม
- ความเสี่ยงของกองทุนรวม
- ความเสี่ยงระดับ 1 กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
- ความเสี่ยงระดับ 2 กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ
- ความเสี่ยงระดับ 3 กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
- ความเสี่ยงระดับ 4 กองทุนรวมตราสารหนี้
- ความเสี่ยงระดับ 5 กองทุนรวมผสม
- ความเสี่ยงระดับ 6 กองทุนรวมตราสารทุน
- ความเสี่ยงระดับ 7 กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม
- ความเสี่ยงระดับ 8 กองทุนรวมทางเลือก
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
- ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในประเทศหรือภูมิภาคใด ๆ
- ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในผู้ออกตราสาร
- ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม
- มีกองทุนรวมประเภทใดบ้าง
- มือใหม่ซื้อกองทุนรวมยังไงดี
- บทส่งท้าย
Mutual Fund 101: กองทุนรวมคืออะไร สิ่งที่มือใหม่ลงทุนต้องรู้
กองทุนรวมจัดเป็นทางเลือกขยายขอบเขตและโอกาสการลงทุน และเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้มีรายได้ทุกท่านด้วยการลงทุนผ่านกองทุนรวม SSF และ RMF มีกองทุนรวมไว้ติดพอร์ต เป็นเหมือนกันชนทางการเงิน
- กองทุนรวมคืออะไร
- ใครเหมาะกับการลงทุนในกองทุนรวมบ้าง
- ข้อด้อยของการลงทุนในกองทุนรวม
- ความเสี่ยงของกองทุนรวม
- ความเสี่ยงระดับ 1 กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
- ความเสี่ยงระดับ 2 กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ
- ความเสี่ยงระดับ 3 กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
- ความเสี่ยงระดับ 4 กองทุนรวมตราสารหนี้
- ความเสี่ยงระดับ 5 กองทุนรวมผสม
- ความเสี่ยงระดับ 6 กองทุนรวมตราสารทุน
- ความเสี่ยงระดับ 7 กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม
- ความเสี่ยงระดับ 8 กองทุนรวมทางเลือก
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
- ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในประเทศหรือภูมิภาคใด ๆ
- ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในผู้ออกตราสาร
- ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม
- มีกองทุนรวมประเภทใดบ้าง
- มือใหม่ซื้อกองทุนรวมยังไงดี
- บทส่งท้าย
กองทุนรวมคืออะไร
กองทุนรวม หรือ Mutual Fund คือการระดมเงินทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคนจำนวนมาก ๆ ไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจากรูปแบบของสินทรัพย์ที่กองทุนกำหนดไว้ โดยมีมืออาชีพอย่างทีมผู้จัดการกองทุนเป็นคนจัดสรรพอร์ตการลงทุนของกองทุน และอาจมีปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเพื่อประโยชน์ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า
ในการลงทุนผ่านกองทุนรวม คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนจำนวนมาก ๆ เมื่อเทียบกับการซื้อหุ้นรายตัว อย่าน้อยเพียงแค่ 500 หรือ 1,000 บาท ตามแต่ละกองทุนกำหนด ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้แล้ว และยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนถึง 2 ทาง คือในรูปของเงินปันผลและจากมูลค่าการขายคืน
กองทุนรวมที่มีปันผลนั้น ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคารที่ได้ผูกไว้กับบัญชีกองทุน เมื่อหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามรอบการจ่ายปันผลที่จะได้ระบุไว้บนหนังสือชี้ชวน (Fund Fact Sheet) แต่หากเป็นกองทุนรวมที่ไม่มีปันผล หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “สะสมมูลค่า” หรือที่ใช้คำในลักษณะใกล้เคียงกัน คุณจะสร้างผลตอบแทนจากกองทุนรวมนี้ได้ผ่านขายคืนหน่วยลงทุนคืน ที่เรียกว่า “Captial Gain” และที่สำคัญคือรายได้ส่วนนี้จะไม่เสียภาษี ณ ที่จ่าย
ใครเหมาะกับการลงทุนในกองทุนรวมบ้าง
การลงทุนผ่านกองทุนรวม เป็นเครื่องมือที่สะดวกสบาย เพราะสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทาง และไม่ต้องอ่านกราฟเอง วิเคราะห์งบการเงินเอง เพียงแค่เลือก “สิ่งที่สนใจ” แล้วเข้าลงทุน
เป็นมือใหม่เริ่มต้นลงทุน: ยังเลือกหุ้นไม่เก่ง ไม่รู้ว่าต้องศึกาาหุ้นอย่างไร ก็สามารถลงทุนจากกองทุน Top Pick ที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว
ไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร: คุณอาจงานเยอะมาก จนไม่สามารถศึกษาบทวิเคราะห์ หรือวิเคราะห์แนวโน้มของหุ้นได้ด้วยตนเอง ก็เพียงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมผู้จัดการกองทุน ในการบริหารสัดส่วนการลงทุน
ทุนไม่มาก: สร้างโอกาสการลงทุนด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 500 หรือ 1,000 บาท แต่ได้เป็น (เสมือน) เจ้าของกิจการหลายแห่งในคราวเดียว
ต้องการซื้อหุ้นต่างประเทศ: การจะซื้อหุ้นรายตัวต่างประเทศสำหรับบางท่านอาจมีข้อจำกัดมากมาย เช่น ภาษา การศึกษาอุตสาหกรรมและหุ้น ทั้งบัญชี Off Shore ยังกำหนดเงินทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง แต่หากซื้อหุ้นต่างประเทศผ่านกองทุนรวมหุ้นที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศ ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการลงทุนให้ได้มาก
ต้องการลดหย่อนภาษี: ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำมูลค่าที่ได้ซื้อกองทุนกองทุน SSF และ RMF รวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ (เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประกันสังคม, ประกันชีวิต เป็นต้น) ได้ไม่เกินปีละ 5 แสนบาท ไปลดหย่อนภาษี
ข้อด้อยของการลงทุนในกองทุนรวม
มีค่าใช้จ่ายมากกว่าการลงทุนในหุ้น: หากคุณซื้อหรือเทรดหุ้นรายตัว คุณจะชำระค่าหุ้น ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ (คิดเป็นอัราส่วนจากราคาซื้อขาย) และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แต่หากซื้อกองทุนรวมจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น ค่าขายคืน ค่าสับเปลี่ยนกองทุน เป็นต้น ซึ่งสามารถศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวนข้อมูลกองทุน (Fund Fact Sheet) ถึงแม้จะเห็นว่าเป็นอัตราส่วนที่ไม่มาก แต่ก็มีผลกระทบต่อมูลค่าพอร์ตการลงทุนของคุณเช่นกัน
ไม่เหมาะกับการเทรด: กองทุนรวมเหมาะต่อการลงทุน หรือพักเงินในระยะกลางถึงยาว ไม่เหมาะกับการเทรดทำกำไรในระยะสั้น ด้วยค่าธรรมเนียมดังกล่าวข้างต้น และระยะเวลา Sattlement ที่นานกว่าการเทรดหุ้น
สภาพคล่องน้อยกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์: บางกองทุนแม้จะไม่กำหนดมูลค่าขั้นต่ำของการขายคืน และเห็นว่าทำกำไรด้วยดีมาตลอดจนอยากจะขายคืนเป็น Capital Gain แต่อย่าลืมว่า ระยะเวลาในการ Sattlement ที่อาจนานถึง T+6 ก็ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องได้ คุรควรตรวจสอบดูว่า กองทุนนั้นที่สนใจ มีกำหนดเวลาเท่าไร
ความเสี่ยงของกองทุนรวม
ความเสี่ยงจากการลงทุน หมายถึง ความเป็นไปได้ที่คุณอาจจะสูญเสียเงินต้นบางส่วนหรือทั้งหมดจากปัจจัยที่มากระทบต่อโอกาสการสร้างกำไรจากการลงทุน
ไม่มีการลงทุนใด ๆ ที่ปราศจากความเสี่ยง แม้แต่การถือเงินสดไว้เฉย ๆ ก็มีความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรม จากภาวะเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี หรือแม้แต่การฝากกับธนาคารพาณิชย์ ก็ยังมีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจโตไม่ทันอัตราเงินเฟ้อ หรือการที่ธนาคารพาณิชย์ล้มละลาย
กองทุนรวมได้รับการจัดแบ่งหมวดหมู่ไว้ 8 หมวด ตามระดับความเสี่ยงน้อยไปมาก จาก 1 - 8
ความเสี่ยงระดับ 1 กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
กองทุนรวมที่ลงทุนในเงินฝากและ/หรือตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ มีสภาพคล่อง มีความผันผวนด้านราคาต่ำ และมีอายุคงเหลือไม่เกิน 397 วัน โดยดำรงอายุถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 92 วัน
ความเสี่ยงระดับ 2 กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ
กองทุนรวมที่ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ มักให้ผลตอบแทนที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เหมาะกับการพักเงินระยะสั้น
ความเสี่ยงระดับ 3 กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
การซื้อพันธบัตรรัฐบาล เท่ากับคุณปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาบนำไปใช้จ่าย โดยได้รับผลตอบแทนในรูปของอัตราดอกเบี้ย แต่ทั้งนี้ อายุของพันธบัติรจะนานถึง 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี คุณอาจคอยไม่ไหวและต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก ดังนั้นการลงทุนในกองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลจึงเป็นหนึ่งทางเลือกของการลงทุนในประเทศ
ความเสี่ยงระดับ 4 กองทุนรวมตราสารหนี้
กองทุนรวที่นำเงินลงทุนไปซื้อตราสารหนี้ ที่ออกโดยภาครัฐและภาคเอกชน (หุ้น) มักให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ตามระยะเวลาที่กำหนด
ความเสี่ยงระดับ 5 กองทุนรวมผสม
กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ ได้ทั้งหมด เช่น เงินฝาก ตราสารหนี้ ตราสารทุน ฯลฯ ต้องมีสัดส่วนในตราสารทุนระหว่าง 35% - 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
ความเสี่ยงระดับ 6 กองทุนรวมตราสารทุน
กองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในหุ้น เช่น หุ้นในดัชนี SET50 (50 บริษัทแรกของตลาดหลักทรัพย์ไทยที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 50 อันดับแรก) หรือ SETHD (30 บริษัทแรกของตลาดหลักทรัพย์ไทยที่มีมูลค่าการปันผลสูงสุด)
ความเสี่ยงระดับ 7 กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม
กองทุนประเภทนี้ จะมีความเสี่ยงของการลงทุนตรงที่หากอุตสาหกรรมใดได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ อาจส่งผลให้มูลค่ามีความผันผวนไปได้
ความเสี่ยงระดับ 8 กองทุนรวมทางเลือก
กองทุนรวมในระดับความเสี่ยงนี้ มักมีความผันผวนสูงมาก แต่หากคุณมีแพลนที่จะพักเงินหรือลงทุนในระยะยาว ก็สามารถพิจาณาปันเงินบางส่วนไปทางนี้ได้ ผ่านการออมในทอง น้ำมัน หรืออสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในกองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือกนี้ เสมอคุณถือสินทรัพย์ไว้ แต่ไม่ต้องมาวุ่นวายกับการดูแลรักษา และปวดหัวกับปัญหาที่มักพบเจอในเวลาที่ถือครองสินทรัพย์เหล่านั้นจริง ๆ
ในตอนเปิดบัญชีกองทุน คุณต้องทำแบบประเมินความเสี่ยงการลงทุน และผลคะแนนที่ได้จะบอกว่าเวลานี้คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ระดับใด ตั้งแต่ 1 - 8 และควรทำการประเมินใหม่ทุก ๆ สองปี เนื่องจากว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนไป เงื่อนไขในชีวิตหรือความต้องการทางการเงิน ภาระหนี้สิน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เมื่อคุณได้รับเงินเดือนมากขึ้น ในขณะที่หนี้บ้านหรือหนี้รถอาจจะลดลงแล้ว กระแสเงินสดในมือก็อาจจะมากขึ้น ทำให้คุณสามารถจัดสรรเงินมาเพื่อการลงทุนได้มากขึ้นนั่นเอง
คุณพอจะเห็นแล้วว่า ความเสี่ยงของการลงทุนในกองทุนรวมจะแปรผันตามชนิดของสินทรัพย์ที่ลงทุน ประเทศที่กองทุนนำเงินไปลงทุน และหากเป็นกองทุนที่ไปลงทุนต่างประเทศ ก็จะมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเป็นปัจจัยด้วย ต่อไปนี้คือรูปแบบของความเสี่ยงที่มักพบในหนังสือชี้ชวน (Fund Fact Sheet)
ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
หากเป็นกองทุนที่นำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ กองทุนหลักนั้นจะใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้หากคุณทำการขายคืนหรือได้รับปันผล ในช่วงที่เงินบาทอ่อนค่า ผลตอบแทนขั้นสุดท้ายที่จะไหลเข้าบัญชีก็อาจจะดูน้อยกว่าในช่วงที่คุณซื้อ (ลงทุน) ในยามที่เงินบาทแข็งค่า
ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในประเทศหรือภูมิภาคใด ๆ
กองทุนที่เน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมของประเทศ เช่น หุ้นจีน หุ้นญี่ปุ่น หุ้นอินเดีย อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภายในประเทศนั้น ๆ เช่น จากการประกาศนโยบายทางการค้า การเลือกตั้งผู้นำประเทศคนใหม่ การได้รับผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรมอื่นที่เป็นอุตสาหกรรมหลักของกองทุนดังกล่าว
ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในผู้ออกตราสาร
กองทุนรวมหนึ่ง อาจจัดสรรเงินทุนไปยังตราสารหลักมากกว่า 1 ชนิดก็ได้ หากว่าเป็นกองทุนรวมที่มุ่งนำเงินทั้งจำนวน หรือเกือบทั้งจำนวนไปในตราสารใดตราสารหนึ่ง แล้ววันหนึ่งเกิดมีข้อผิดพลาดที่ผู้ออกตราสารนั้น ก็จะส่งผลให้กองทุนรวมดังกล่าวได้รับผลกระทบด้วย
คุณสามารถตรวจสอบดุได้ว่ากองทุนของคุณ มีการกระจายการลงทุนไปยังผู้ออกตราสารใดบ้าง ที่หนังสือชี้ชวน (Fund Fact Sheet) ในหัวข้อ “หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก”
ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม
หากเป็นกองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม คุณจะต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงนี้ด้วยว่าในช่วงเวลาที่คุณต้องการลงทุน อุตสาหกรรมนั้นจะมีศักยภาพที่ดีพอในการสร้างมูลค่าหรือไม่ เช่น ในอีก 5 ปีข้างหน้า เทรนด์สุขภาพอาจจมาแรง ด้วยปัจจัยที่หลาย ๆ สังคมก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มเต็ม ทำให้การรักษาสุขภาพเป็นสิ่งที่คนคิดถึงมาก ในทางกลับกัน อุตสาหกรรมที่ไม่ทันต่อยุคสมัยก็อาจตกไป เมื่อเป็นเช่นนั้น เงินทุนของคุณก็ไม่อาจทำกำไรได้ และถึงเวลาที่ต้องทบทวนพอร์ตการลงทุนของตนเอง
ในฐานะนักลงทุนรายย่อย คุณจะสามารถจำกัดหรือลดทอนความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง ตอนนี้คุณพอจะทราบแล้วว่า ไม่มีรูปแบบการลงทุนใด หรือแม้แต่กองทุนแบบใดที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในทุกเวลา คุณควรจัดสรรเงินลงทุนกระจายไปยังเครื่องมือการลงทุนแบบต่าง ๆ และกองทุนรวมแบบต่าง ๆ และมีการทบทวน ตรวจสอบแผนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละ 1 - 2 ครั้ง
มีกองทุนรวมประเภทใดบ้าง
เราสามารถจำแนกประเภทของกองทุนรวมได้หลากหลายรูปแบบ ถ้าคุณเริ่มต้นอ่านหนังสือชี้ชวนกองทุนรวม (Fund Fact Sheet) คุณอาจจะพบว่าที่กองทุนหนึ่ง ๆ ระบุว่าเป็นหลายประเภทกองทุน ที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากกองทุนดังกล่าว อาจจำแนกออกไปได้หลายรูปแบบ ดังนั้น ในย่อหน้านี้ คุณจะได้ทราบว่าปัจจุบันกองทุนรวมที่มีจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย มีรูปแบบใดบ้าง
จำแนกตามรูปแบบของการจ่ายปันผล
กองทุนที่จ่ายปันผล และไม่จ่ายปันผล การจ่ายปันผลทำให้คุณต้องเสียภาษี (คล้ายกับบัญชีเงินฝากประจำ) แต่กองทุนที่ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล คุณจะได้กำไรเมื่อขายคืน (ขายทั้งหมด หรือบางส่วนก็ได้)
จำแนกตามนโยบายการลงทุน
บนหนังสือชี้ชวน เมื่อถึงหัวข้อ “นโยบายการลงทุน” คุณจะทราบว่ากองทุนนี้ จะนำเงินทุนไปลงทุนในกองทุนหลักใดบ้าง เช่น กองทุน KDGRMF มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักที่ชื่อ SPDR Gold Trust (USD) ซึ่งหากคุณมองว่า กองทุนหลักนี้น่าสนใจ ตอบโจทย์คุณ คุณก็อาจตัดสินใจซื้อกองทุน KGDRMF
จำแนกตามรูปแบบการขายคืนหน่วยลงทุน
เรียกง่าย ๆ ว่า “กองทุนเปิด” และ “กองทุนปิด” คำว่ากองทุนเปิด หมายถึงกองทุนที่ไม่กำหนดอายุโครงการของกองทุน คุณสามารถถือยาว ซื้อเข้า ขายออกเมื่อไรก็ได้ แต่หากเป็นกองทุนปิด บางกองทุนอาจกำหนดว่าห้ามขายคืนก่อนกี่ปี
จำแนกตามสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ได้แก่ กองทุน SSF หรือ RMF คือการที่คุณสามารถนำมูลค่าเงินลงทุนเมื่อรวมกัน และรวมกับการออมเพื่อการเกษียณแล้ว ต้องไม่เกิน 5 แสนบาทไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขการใช้สิทธิก่อนลงทุน
เรามองว่า หากคุณต้องการประหยัดภาษี คุณควรพิจารณาการซื้อกองทุน SSF หรือ RMF เพราะสุดท้ายเงินจำนวนนั้นก็จะกลับมาเป็นของเราในวันที่เราเกษียณ หรือแม้แต่ผู้ที่เสียภาษีในฐานน้อยหรือไม่เสียภาษี ก็น่าจะพิจารณาการซื้อกองทุนเหล่านี้ไว้ในพอร์ต เพราะมันจะช่วยสร้างวินัยในการออมเงินให้กับเราได้เป็นอย่างมาก
มือใหม่ซื้อกองทุนรวมยังไงดี
เริ่มต้นซื้อกองทุนรวมสำหรับมือใหม่ เพียงติดต่อธนาคารพาณิชย์ที่คุณมีบัญชีอยู่ ซึ่งธนาคารเหล่านี้ จะมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นนายหน้าค้าหลักทรัพย์ที่ทำงานอย่างเป็นเอกเทศระหว่าง “ธนาคาร” และ “บริษัทบริการจัดการหลักทรัพย์” ที่ได้รับใบรับรองคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือการเปิดบัญชี หรือบางท่านอาจใช้บริการสมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ บลจ. ก็ได้
ในการซื้อขายกองทุน คุณจะจ่ายเฉพาะมูลค่าของ NAV ณ เวลานั้นและค่าใช้จ่ายของกองทุนตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ บลจ. เรียกเก็บ
ตรวจสอบรายชื่อ บลจ. ที่ได้รับการรับรองจากตลาดหลักทรัพย์แห่งปงระเทศไทยก่อนเริ่มต้นลงทุนทุกครั้ง พิจารณาจากความสะดวก ชื่อเสียง การบริการ
เตรียมเอกสารส่วนตัว
กรอกข้อมูลส่วนบุคคล หลักฐานแสดงรายได้ ทำแบบประเมินความเสี่ยงการลงทุน
คอยการอนุมัติและเริ่มต้นลงทุน
หากคุณต้องการตัดความวุ่นวายทั้งหมดในการลงทุนออกไป เราขอแนะนำให้คุณลงทุนเป็นประจำทุก ๆ เดือนในจำนวนเท่า ๆ กันด้วย Dollar Cost Average หรือที่เรียกว่า DCA ซึ่งก็คือการใช้บริการตัดบัญชีอัตโนมัติ (ATS) เพื่อเข้าบัญชีกองทุนที่คุณเลือก การ DCA จะช่วยเฉลี่ยต้นทุนโดยไม่ต้องกังวลกับราคาต้นทุนที่ปรับขึ้นลง เหมือนกับการที่คนสมัยก่อนเก็บเงินไปซื้อทองคำรูปพรรณมาเก็บไว้ในยามที่ราคาลง แล้วพอราคาทองงขึ้นก็นำไปขาย โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าทองเส้นนี้ซื้อมาตอนราคาเท่าไร แล้วต้องขายที่เท่าไร
บทส่งท้าย
การลงทุนผ่านกองทุนรวมมีความน่าสนใจตรงที่คุณสามารถกระจายความเสี่ยง เลือกได้หลากหลายตามความต้องการในเวลาเดียวกัน สร้างโอกาสสร้างผลตอบแทนไปยังทรัพย์สินหลากชนิด ตามระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ผ่านแบบประเมินความเสี่ยง และที่สำคัญกองทุนรวม SSF และ กองทุนรวม RMF ยังช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้อีกด้วย อย่าลืมทำความเข้าใจรูปแบบของกองทุน นโยบายการลงทุน และมีความสม่ำเสมอในการลงทุน เพื่อความมั่นคงทางการเงินของคุณ
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!