
Bullish Divergence คืออะไร ใน FOREX
เรียนรู้การดูจุดกลับตัวในเทรนด์ Bullish วิเคราะห์ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ คือเครื่องมือและกลยุทธ์สำคัญของการเทรดอย่างมืออาชีพ
การเปิดสถานะซื้อขายได้ถูกจุด เป็นช่วงกลับตัวของราคา จะทำให้สามารถทำกำไรได้สูง หรืออาจจะทำกำไรได้มากและต่อเนื่อง กรณีที่เก็งกำไรเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน ซึ่งการหาจุดเข้าและออกนี้ได้ นอกจากเทคนิคการอ่านกราฟแท่งเทียน หรือกราฟในรูปแบบอื่นแล้ว นักเทรดมืออาชีพส่วนใหญ่จะใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เพิ่มด้วย
เบื้องหลังเครื่องมือทางเทคนิคคือพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น เครื่องมือทางเทคนิคบอกว่าปริมาณการส่งคำสั่งซื้อน้อยในช่วงขาขึ้น มักสื่อถึงพฤติกรรมนักเทรดในตลาดว่าสนใจซื้อน้อยลง นั่นเป็นสัญญาณว่าราคาจะกลับตัวลดลง หรือเป็นสัญญาณให้ปิดสัญญาซื้อที่เปิดไว้ แล้วไปเก็งกำไรทางฝั่งการขายแทน ในทางกลับกัน ในช่วงขาลง ปริมาณคำสั่งขายที่น้อยลงทั้งที่ราคายังเป็นราคาขาลง เป็นสัญญาณราคากลับตัวสู่ขาขึ้น
เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น ปกติแล้วจะยืนยันแนวโน้มราคาว่าเป็นขาขึ้นหรือลงเป็นสำคัญ แต่เมื่อมีความขัดแย้งกับแนวโน้มราคาให้เห็น การขึ้นลงไม่ล้อมทรงตามกัน มักจะเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มราคากำลังจะเปลี่ยน
ความขัดแย้งระหว่างราคาและเครื่องมือวิเคราะห์ เราเรียกว่า Divergence
Divergence คืออะไร
Divergence คือ สัญญาณในการเข้าเทรดรูปแบบหนึ่งของการเทรด FOREX มักจะระบุถึงจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม ซึ่งเป็นจุดเหมาะแก่การเปิดและปิดสถานะ ซึ่งผู้ชำนาญจะมองว่า สัญญาณนี้ควรจะเป็นเหมือนกับไฟเหลือง ให้ชะลอตัวก่อน รอการยืนยันจากตลาดด้วยการดูการปรับเปลี่ยนของราคาอีกสักหน่อยประกอบ แล้วค่อยตัดสินใจ ปิดหรือเปิดสถานะ เพราะ Divergence หลอก ๆ ที่สุดท้ายแนวโน้มไม่่ปรับเปลี่ยนเกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ
ความน่าเชื่อถือของ Divergence คือขึ้นอยู่กับกรอบระยะเวลาที่ดูกราฟ (Timeframe) และเครื่องมือที่ใช้ (Indicator) ปกติแล้วนักเทรดจะหาสัญญาณ Divergence จากกรอบระยะเวลาตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป เพราะเครื่องมือทางเทคนิคในกลุ่ม Leading Indicator (หรือที่หลายคนเรียกว่า Momentum Oscillator) ซึงบ่งบอกสภาวะซื้อมากไป หรือขายมากเกินไปมักจะแสดงผลที่ส่อถึง Divergence สำหรับการเทรดระยะยาวเกินสี่ชั่วโมง เมื่อเทียบดูกับกราฟราคา
พฤติกรรมเบื้องหลังของคน ซึ่งอธิบายความขัดแย้งระหว่างแนวโน้มราคาและทิศทางของกราฟในเครื่องมือวิเคราะห์ ขยายความให้ละเอียดได้ดังนี้ คือผู้ซื้อในตลาด FOREX มักรอให้ราคาขยับสูงขึ้นจนทำกำไรถึงระดับที่พอใจ แล้วถึงทำการปิดสัญญา แนวต้านมักจะมีคนที่ปิดสัญญาอยู่ไม่น้อย ช่วงนั้นปริมาณการซื้อขายในตลาดย่อมหดหายลงไปมาก และราคาก็อาจกลับตัวเป็นขาลง ถ้าไม่มีการกระตุ้นจากข่าวในภาคเศรษฐกิจจริงว่ามีความต้องการคู่สกุลเงินที่กำลังเทรดอยู่ในปริมาณมาก ส่วนในกรณีขาลงก็เช่นกัน ผู้ขายในตลาด FOREX มักรอให้ราคาต่ำลงไปอีกเพื่อทยอยปิดสถานะทำกำไร แต่หากว่าแรงขายหดตัว ราคาก็จะกลับตัวสู่ขาขึ้น
Bullish Divergence คืออะไร
Bullish Divergence คือสัญญาณขาขึ้นขณะตลาดอยู่ในช่วงขาลง โดยผู้ขายในตลาดกำลังอ่อนอ่อนกำลังลงหลังได้พากันทยอยปิดสัญญาขายเพื่อทำกำไรไปมากแล้ว หรือเมื่อข่าวได้กระทบกับราคาสกุลเงินในตลาด FOREX ที่กำลังเก็งกำไรอยู่ ทำให้มูลค่าแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงินมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้สัดส่วนแรงขายในตลาดตกลง คนหันมาเปิดสถานะซื้อแทน
หากคุณดูกราฟแท่งเทียน จะพบว่า หลังผ่านจุดที่ระบุว่าเป็น Bullish Divergence นี้ไปแล้ว ราคาสูงสุด ณ เวลานี้ จะปรับขึ้นไปเหนือราคาสูงสุดก่อนหน้า และราคาต่ำสุดก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นั้นหมายถึง เมื่อเราจบสัญญาณของ Bullish Divergence นี้ได้ เราจะทราบเทรนด์ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น
Momentum Oscilator จับสัญญาณ Bullish Divergence
เครื่องมือที่ใช้ในกลุ่ม Momentum Oscilatior เพื่อหา Bullish Divergence คือ MACD หรือ Moving Avergage Convergence Divergence สามารถดูเทียบกับกราฟราคาแล้วเห็นชัดเจนถึง Divergenceที่ เกิดขึ้น โดยเครื่องมือ MACD จะประกอบด้วย 2 เส้นกราฟหลักสำคัญ คือเส้น MACD และเส้น Signal
เส้น MACD คำนวณมาจากเส้น Exponential Moving Average แสดงค่าเฉลี่ยราคา โดยใช้ราคาย้อนหลัง 26 วันและ 12 วัน ซึ่งใน Meta Trade 5 (MT5) เส้น MACD จะเป็นกรอบโค้งของแผนภูมิฮีสโตแกรม ขณะที่อีกเส้นหนึ่งในเครื่องมือ MACD คือเส้นสัญญาณ (Signal) กำหนดขึ้นจากราคาย้อนหลัง 9 วัน เอาไว้ดูเทียบกันเอง เมื่อเส้น MACD ตัดขึ้นไปอยู่เหนือเส้น Signal เชื่อกันว่าเป็นสัญญาณให้ซื้อ แต่ถ้าเส้น MACD ตัดลงไปอยู่ใต้เส้น Signal เป็นสัญญาณให้ขาย
ขณะที่เครื่องมือซึ่งนักเทรดรู้ดีว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกันอย่าง RSI มักจะคลาดเคลื่อนและไม่ค่อยส่งสัญญาณ Divergence นั่นเพราะโดยพื้นฐานแล้ว RSI เป็นการดูระดับการแกว่งของราคา โดยมีค่าระหว่าง 0-100 ปกติถ้าการแกว่งมีค่ามากกว่า 80 หมายถึงราคาปรับตัวขึ้นไปถึงร้อยละ 80 มือใหม่หลายคนจะเห็นเป็นสัญญาณซื้อ ซึ่งหลาย ๆ ครั้งเป็นสัญญาณหลอก ราคากลับตกลงมา
ผู้ชำนาญหลายท่านทราบดีถึงความเสี่ยงที่จะเจอสัญญาณหลอกเช่นนี้ จึงดู RSI ร่วมกับเครื่องมืออื่น รวมถึงดูรูปแบบของกราฟที่เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของราคา เช่นเดียวกับ MACD ซึ่งสัญญาณที่ได้มักจะช้ากว่าการเคลื่อนไหวของกราฟ ดังนั้นการดูเครื่องมือ RSI, MACD หรือเครื่องมืออื่น ๆ จะต้องใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจ สัญญาณยังไม่ใช่คำยืนยัน แต่เป็นเหมือนกับไฟเหลืองที่เตือนให้เตรียมออกตัว จะเข้าซื้อขาย เปิดหรือปิดสถานะ
ขอฝากไว้ให้นักเทรดไม่เสียทีกับเครื่องมือ ทุกครั้งที่เทรด เมื่อสัญญาณมา จะต้องรอราคาที่ขยับอยู่นั้นเคลื่อนไหวในทิศทางที่คะเนไว้ เพื่อเป็นการยืนยันเสมอ ในตลาด FOREX ความรีบเร่งจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุน
เทคนิคการเทรด FOREX จาก Bullish Divergence
นักเทรดแต่ละท่านมีเทคนิคที่จะหาสัญญาณ Bullish Divergence แตกต่างกันไป บางท่านใช้ร่วมกับบทวิเคราะห์ Forex จากแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ประกอบเครื่องมือทางเทคนิคชนิดต่าง ๆ ซึ่งในบทความนี้จะเสนอการใช้ MACD, RSI และรูปแบบของกราฟแท่งเทียนร่วมกัน โดยจะนำเสนอตามระดับสัญญาณที่ส่งออกมาจากเครื่องมือ MACD เป็นสำคัญ
MACD ส่งสัญญาณระดับแข็งแกร่ง
กราฟราคา ราคาต่ำสุดล่าสุด (New High) ต่ำกว่าราคาต่ำสุดก่อนหน้า
เส้น MACD หรือเส้นขอบของ Histogram ตรงจุดราคาต่ำสุดล่าสุด (New High) กลับมีความตื้นกว่าจุดที่เทียบกับราคาต่ำสุดก่อนหน้า แสดงว่าแรงขายกำลังจะหมดลง และแรงซื้อจะเข้ามาแทน
เส้น RSI แสดงแนวโน้มขาขึ้นตามมาเป็น High
MACD ส่งสัญญาณระดับกลาง
กราฟราคา ราคาต่ำสุดล่าสุด (New High) เท่ากับราคาต่ำสุดก่อนหน้า
เส้น MACD หรือเส้นขอบของ Histogram ตรงจุดราคาต่ำสุดล่าสุด (New High) กลับมีความตื้นกว่าจุดที่เทียบกับราคาต่ำสุดก่อนหน้า
เส้น RSI แสดงแนวโน้มขาขึ้นตามมาเป็น High และตามด้วย Higher Low
MACD ส่งสัญญาณระดับอ่อน
กราฟราคา ราคาต่ำสุดล่าสุด (New High) ต่ำกว่าราคาต่ำสุดก่อนหน้า
เส้น MACD หรือเส้นขอบของ Histogram ตรงจุดราคาต่ำสุดล่าสุด (New Hight) กลับมีความตื้นเท่ากับราคาต่ำสุดก่อนหน้า
เส้น RSI แสดงแนวโน้มขาขึ้นเป็น Higher Low และตามด้วย High
เทคนิคการเทรด Forex Divergence คือเทคนิคการเทรดระยะยาวที่ใช้กราฟแท่งเทียน MACD และ RSI ประกอบกัน จะทำให้มั่นใจมากขึ้นในสัญญาณ แต่จะต้องเฝ้าดูราคาอีกสักพักด้วย เพื่อไม่ให้ถูกหลอกได้
เนื่องจากในตลาด FOREX มีความผันผวนสูงมาก คุณควรใช้เทคนิคนี้สำหรับการเทรดที่คาดหวังผลกำไรเมื่อสิ้นวันหรือข้ามวันเท่านั้น ไม่เหมาะกับการวิเคราะห์ Forex รายชั่วโมง แต่ในระหว่างชั่วโมง หากต้องการทำกำไรระยะสั้น ก็สามารถเลือกปิดสถานะได้เมื่อได้ผลกำไรตามต้องการ
การเทรดข้ามวัน ควรเลือกลงทุนในคู่สกุลเงินที่มีการคิดค่า Swap หรือค่าธรรมเนียมการถือข้ามคืนเป็นบวก โดยการถือข้ามวัน มีผลเพื่อหวังได้กำไรก้อนใหญ่ เงินทุนในพอร์ตควรจัดสรรไว้เพียงพอ และควรหมั่นตรวจสอบ Timeframe สม่ำเสมอ โดยไม่เทรดสวนแนวโน้มในช่วง Timeframe ระยะยาวที่หนึ่งวันหรือมากกว่านั้น
บทส่งท้าย
FOREX เป็นรูปแบบการลงทุนที่มีความผันผวนสูง จึงมีจังหวะในการเปิดสัญญาซื้อขายเพื่อทำกำไรอยู่บ่อยครั้ง นักลงทุนอาศัยความเข้าใจพฤติกรรมของคน คือเมื่อกราฟได้แกว่งตัวไปทางขาขึ้น หรือขาลงระยะหนึ่งแล้ว ย่อมมีคนที่อยากจะปิดสถานะหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงเพื่อทำกำไรซึ่งมีผลทำให้การปรับตัวขึ้นหรือลงของกราฟชะลอลง ก่อนจะปรับเปลี่ยนทิศทาง
เครื่องมือทางเทคนิคสามารถใช้ได้ง่าย เช่นในกลุ่มเครื่องมือ Oscillitator จะแสดงแรงขายที่มาก หรือแรงซื้อที่มาก มีวัตถุประสงค์ของตัวมันเอง แต่ต้องรู้เท่าทันว่าแรงซื้อหรือแรงขายนั้นอาจถูกกระตุ้นด้วยข่าว หรือการเคลื่อนไหวของผู้เล่นรายใหญ่ ซึ่งเครื่องมือ Oscilitatior จะแสดงให้ดูด้วย และอาจจะทำให้เข้าใจผิดไปกับแนวโน้มหลอก ๆ นักเทรดควรใส่ใจศึกษาเครื่องมือในการเทรดอื่น ๆ เพื่อใช้ร่วมด้วยในการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด
นอกจากนี้ จะเห็นว่าเทคนิคในบทความนี้ จะมีจังหวะสอดประสานระหว่างเครื่องมือ นั่นหมายถึงการรอคอยเพื่อเข้าให้ถูกจังหวะ ซึ่งในตลาด FOREX นั้น การรอคอยเข้าให้ถูกจังหวะ หรือออกให้ถูกจังหวะ เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนเช่นกัน
ข้อควรระวังเพิ่มเติมในการเทรด นักเทรดควรตั้งค่า Stop Loss ไว้ในระดับที่สามารถยอมรับความสูญเสียเงินทุนได้ หรือตั้ง Take Profit เพื่อให้ไม่จำเป็นต้องเฝ้าตลอด เพราะอาจจะทำให้เผลอใช้อารมณ์ในการเทรด รวมถึงป้องกันไม่ให้พลาดจังหวะดี ๆ ในการทำกำไร หรือใช้ Trailing Take Profit เป็นการตั้งค่าปิดสถานะอัตโนมัติ โดยเพิ่มกำไรที่มีโอกาสได้รับหากแนวโน้มราคามีทิศทางที่ชัดเจน
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!