எங்கள் வலைத்தளத்தை நீங்கள் எவ்வாறு பயன்படுத்துகிறீர்கள் மற்றும் நாங்கள் எதை மேம்படுத்த வேண்டும் என்பதைப் பற்றி மேலும் அறிந்துகொள்ள நாங்கள் குக்கீகளைப் பயன்படுத்துகிறோம். எங்கள் வலைத்தளத்தை தொடர்ந்து பயன்படுத்த "ஒப்புக்கொள்" என்பதை கிளிக் செய்யவும். விவரங்கள்

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ Consumer Confidence Index

2023-08-07 அன்று வெளியிடப்பட்டது

ยินดีต้อนรับสู่บทความการลงทุนของ TOPONE Markets ในวันนี้ เราจะพาคุณมาทำความรู้จักเกี่ยวกับความเชื่อมั่นอันน่าทึ่งของผู้บริโภคและผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจในบริบทของสหรัฐฯ ผู้เป้นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในโลกยุคปัจจุบัน ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นนี้ การมีความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจและนักลงทุนและเทรดเดอร์ในตลาดการเงิน


ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค หรือ Consumer Confidence Index (CCI) ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวัดความเชื่อมั่นของสาธารณชน (ในสหรัฐฯ) ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจ พฤติกรรมการใช้จ่าย และแนวโน้มทางการเงินโดยรวม (ของประเทศ)


ในบทความนี้ เราจะนำเสนอทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตั้งแต่ข้อมูลคืออะไรและคำนวณอย่างไร ไปจนถึงความสำคัญในการกำหนดแนวโน้มของตลาดหุ้นและการเทรด Forex นอกจากนี้ เราจะสำรวจว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างไร และเน้นแนวโน้มล่าสุดที่เกิดขึ้นในตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญนี้


แต่เดี๋ยวก่อน! นั่นไม่ใช่ทั้งหมด. นอกจากนี้ เรายังจะกล่าวถึงดัชนีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคของประชาชน และแม้แต่เปิดเผยโอกาสในการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีศักยภาพด้วยข้อมูลเชิงลึกจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อมในขณะที่เราเริ่มต้นการเดินทางที่ให้ข้อมูลสู่ขอบเขตแห่งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค คืออะไร

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค หรือ Consumer Confidence Index คือเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ที่ใช้ในการวัดระดับของการมองโลกในแง่ดีหรือแง่ร้ายที่ผู้บริโภคมีเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินโดยรวมและสถานะของเศรษฐกิจของประเทศ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ที่มีค่าของรูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ


ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิงตามการสำรวจรายเดือนที่จัดทำโดย The Conference Board ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีการพิจารณาองค์ประกอบหลักสองประการ ได้แก่ สถานการณ์ปัจจุบันและความคาดหวังในอนาคต แบบสำรวจนี้ถามคำถามชุดต่าง ๆ  ที่เกี่ยวข้องกับสภาพการเงินในปัจจุบัน ความพร้อมในการทำงาน แนวโน้มธุรกิจ และความคาดหวังรายได้ในอนาคต รวมถึงความรู้สึกต่อการวางแผนซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ ๆ  เช่น อสังหาริมทรพยืหรือรถยนต์ จากนั้นคำตอบจะถูกรวบรวมเพื่อสร้างดัชนีคะแนนที่สะท้อนถึงความรู้สึกของผู้บริโภค


截屏2023-08-07 17.59.22.png


เมื่อได้ดัชนีย่อยทั้งสองจากการรวบรวมข้อมูลแบบสำรวจแล้ว จะมีการถ่วงน้ำหนักตามความสำคัญในการทำนายพฤติกรรมผู้บริโภค วิธีการถ่วงน้ำหนักช่วยสร้างคะแนน CCI โดยรวมที่อยู่ระหว่าง 0 ถึง 100


ในการแปลความจากดัชนี หากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูง จะเป้นการบ่งชี้ถึงความรู้สึกเชิงบวกของผู้บริโภค กล่าวคือพวกเขารู้สึกในแง่ดีเกี่ยวกับโอกาสทางการเงินของตนและมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินไปกับสินค้าและบริการ ในทางกลับกัน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำจะแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภครู้สึกไม่มั่นใจหรือมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับการเงินของตน และอาจมีแนวโน้มที่จะเก็บออมมากกว่าใช้จ่าย


ความคาดหวังหรือความรู้สึกเช่นนี้ ส่งผลต่อตลาดการเงินในภาพที่กว้างขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้


ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับความรู้สึกมั่นใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลตลอดจนสถานะของเศรษฐกิจในวงกว้าง ผลกระทบมีมากกว่าแค่ตัวเลข - ช่วยกำหนดนโยบายเศรษฐกิจในขณะที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญแก่ธุรกิจเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า การทำความเข้าใจเมตริกหลักนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการสำรวจตลาดที่ซับซ้อนในปัจจุบันให้ประสบความสำเร็จ


ด้วยการติดตามการเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเมื่อเวลาผ่านไปตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค นักเศรษฐศาสตร์สามารถได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของความต้องการของตลาดและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมและการตัดสินใจเชิงนโยบายได้ดีขึ้น ส่วนบรรดาธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับระดับการผลิต กลยุทธ์การขาย และโอกาสในการลงทุนขยายกิจการใหม่ ๆ

ทำไมต้องจับตาดูดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) มีบทบาทสำคัญในการวัดสุขภาพและเสถียรภาพของเศรษฐกิจ ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญถึงสุขภาวะทางการเงินของคนในประเทศ เป้นข้อมูลสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ธุรกิจ และนักลงทุนในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด


การที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมองโลกในแง่ดีหรือมองโลกในแง่ร้ายอย่างไรเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบันและแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคต ข้อมูลนี้ช่วยให้ธุรกิจคาดการณ์รูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทำให้สามารถปรับระดับการผลิตได้ตามความเหมาะสม CCI ที่เป็นบวกบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคสูงขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ


ความผันผวนของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุน โดยฉพาะอย่างยิ่งการติดตามการเปลี่ยนแปลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกยุคปัจจุบัน ผู้คนของประเทศต่าง ๆ ทำการค้าระหว่างกันด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ย่อมได้รับผลกระทบไม่ทางตรงก็ทางอ้อมต่อการผันแปรของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เช่นนี้


เมื่อความเชื่อมั่นของตลาดเป็นไปในเชิงบวก (มองสถานการณ์ว่าเศรษฐกิจจะคึกคัก ผู้คนมีงานทำ มีรายได้ มีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น) การบริโภคภาคครัวเรือนก็จะสดใสมากยิ่งขึ้น


สิ่งนี้เป็นผลดีต่อธุรกิจที่จะมีโอกาสได้รับเงินมากขึ้น และทำให้มูลค่าของบริษัทในตลาดหุ้นมีความน่าสนใจ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (เช่น คนไทยต้องการซื้อหุ้นใด ๆ ในสหรัฐฯ) ผลที่ตามมาคือการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน


ในฐานะเทรดเดอร์ผู้มองหาโอกาสทำกำไรจากตลาดการเงินเช่นนี้ เราจำเป็นต้องเข้าใจพลวัตการเปลี่ยนแปลงนี้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพื่อให้ประเมินทิศทางแนวโน้มของค่าเงินได้


ว่า ถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ แล้วเงินดอลลาร์จะแข็งค่า แล้วใครจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ จากนั้นจึงวางแผนจัดการกลยุทธ์การลงทุนหรือการเทรดให้รับกับเทรนด์ของตลาด

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างไร

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ วัดว่าผู้บริโภคมองโลกในแง่ดีหรือมองโลกในแง่ร้ายอย่างไรเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเงินส่วนบุคคลของพวกเขา แต่มันเกี่ยวอะไรกับตลาดหุ้น?


ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนหลักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้บริโภครู้สึกมั่นใจเกี่ยวกับอนาคต พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถนำไปสู่ผลกำไรขององค์กรที่สูงขึ้นและผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นในที่สุด


เมื่อหุ้นมีราคาสูงขึ้นจากผลประอบการที่ดี ก็สามารถจ่ายเงินปันผลกลับคืนสู่นักลงทุนได้ในสัดส่วนที่มากขึ้น หรือหากเป็นสายเทรดเก็งกำไร เวลาดังกล่าวก็ถือว่าเป็นจังหวะเวลาที่ดีที่จะขาย Take Profit ทำกำไรจากส่วนต่างราคา


ในการ Take Profit ไม่มีสูตรตายตัวว่าคุณทำเมื่อไรหรือเป้นจำนวนเท่าใด ขึ้นกับความช่วยส่วนบุคคล บางท่านอาจกำหนดเป็นระดับเปอร์เซ็นต์ของต้นทุน เช่น ถ้าราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 20% จากราคาทุน ก็จะขายเพื่อทำกำไร


เมื่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคส่อเค้าไปทางความเชื่อนมั่นที่ลดลง ช่วงเวลานี้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เนื่องจากเมื่อกิจกรรมการผลิตซบเซา ความต้องการการใช้พลังงานก็จะถดถอยลง ดังที่เราจะเห็นได้ว่าหุ้นน้ำมันค่อนข้างติดลบติดต่อกันในช่วงไม่นานมานี้

เงินเฟ้อ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เกี่ยวข้องกันอย่างไร

เมื่อผู้บริโภครู้สึกในแง่ดีเกี่ยวกับสถานะของเศรษฐกิจของประเทศและการเงินส่วนบุคคล พวกเขามีแนวโน้มที่จะเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้อาจปูทางไปสู่ความต้องการในสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น ธุรกิจอาจตอบสนองด้วยการขึ้นราคาเพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุด (เพราะต่อให้ฉันขายแพง ก็จะมีคนมาซื้อแน่ ๆ)


นอกจากนี้ เมื่อผู้บริโภคมีความมั่นใจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในอนาคต พวกเขาอาจเต็มใจที่จะกู้เงินเพื่อซื้อสินค้าเงินผ่อนหรือสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้าน หรือรถยนต์มากขึ้น การกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังนำไปสู่การขยายตัวของปริมาณเงินที่หมุนเวียนภายในระบบเศรษฐกิจ


สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่ออัตราเงินเฟ้อ ปัจจัยอื่น ๆ เช่น นโยบายของรัฐบาล เหตุการณ์ระดับโลก และการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิตก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน


แต่ถ้ามีเงินเฟ้อมากไป เช่นเวลานี้ที่สหรัฐฯ ทางการโดย FED ก็ต้องกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้สูงขึ้นเพื่อควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เบาบางลง การขึ้นดอกเบี้ย FED นี้จะกระตุ้นให้คนหันมาสนใจในดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารมากกว่าการนำเงินไปใช้จ่าย เมื่อการใช้จ่ายลดลง ราคาของสินค้าและบริการที่เคยปรับขึ้นไปก่อนหน้าก็จำเป็นต้องลดลงตามเพื่อให้ขายออกได้ ดังนั้นแล้ว ในอีกไม่นาน (ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าเมื่อไร) เมื่ออัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอาจจะมีท่าทีผ่อนคลายเบาบางลง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการที่สามารถเพิ่มหรือลดทอนการมองโลกในแง่ดีของผู้คนเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคือสถานะโดยรวมของตลาดแรงงาน เมื่ออัตราการว่างงานต่ำและมีโอกาสในการทำงานที่เพียงพอ ผู้บริโภคมักจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและโอกาสในอนาคต (อย่าลืมว่า คนคนหนึ่งเป็นทั้งแรงงานและผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจ)


อีกปัจจัยที่สำคัญคือระดับรายได้ หากค่าจ้างหยุดนิ่งหรือลดลง อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เนื่องจากผู้คนอาจรู้สึกว่าสามารถซื้อสินค้าตามอำเภอใจได้น้อยลง หรือมีความกังวลเกี่ยวกับการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของตน ก็อาจจะมีความระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อของใช้หรือช็อปปิ้ง ในทางกลับกัน เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น มีเงินไม่ขาดมือ (เงินเฟ้อส่วนเกิน) ผู้คนก็มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความต้องการ (ที่ไม่สิ้นสุด) เช่น มีรองเท้าดี ๆ อยู่แล้วคู่หนึ่ง แต่เพราะเงินเหลือ ก็เลยอยากได้เพิ่มอีกหลายคู่ และแต่ละคู่ก็ราคาค่อนข้างสูงกว่าคู่ก่อน ๆ ที่เคยใช้งานมา


ประการถัดมาคือภาวะเศรษฐกิจ เรื่องนี้มีบทบาทในการกำหนดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเช่นกัน ปัจจัยต่าง ๆ  เช่น การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และประสิทธิภาพของตลาดหุ้น ล้วนมีส่วนช่วยให้บุคคลรับรู้ถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศของตนและส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของพวกเขา


เหตุการณ์ภายนอก เช่น ภัยธรรมชาติ หรือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์สามารถมีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้เช่นกัน ความไม่แน่นอนที่เกิดจากเหตุการณ์เหล่านี้อาจทำให้ผู้คนลังเลที่จะใช้เงินหรือลงทุนในสินค้าราคาสูงจนกว่าพวกเขาจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคต


นโยบายและกฎระเบียบของรัฐบาลอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีหรือการตัดสินใจเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงทางการค้าสามารถสร้างความไม่แน่นอนให้กับผู้บริโภค ซึ่งส่งผลต่อความเต็มใจที่จะใช้จ่ายของพวกเขา


ปัจจัยที่เชื่อมโยงกันหลายอย่างเช่นที่กล่าวมานี้ ได้กลายเป็นตัวกำหนดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สะท้อนออกมาในรูปของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมถึงระดับการจ้างงาน แนวโน้มรายได้ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ปัจจัยภายนอก และนโยบายการเงินของรัฐบาล


การทำความเข้าใจกับอิทธิพลเหล่านี้ช่วยให้นักเศรษฐศาสตร์ประเมินความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรูปแบบการใช้จ่ายซึ่งมีนัยที่กว้างขึ้นสำหรับการเติบโตและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และตลาดการเงิน โดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือตลาดการเทรด Forex ที่ได้รับอิทธิพลทันทีจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงิน USD ต่อเงินสกุลของตน

วิธีใช้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในการเทรด

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เท่านั้น มีจุดประสงค์สำคัญในการทำความเข้าใจสถานะของเศรษฐกิจและคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต ดังนั้นแล้ว ดัชนีนี้ถูกนำไปใช้อย่างไร


ผู้กำหนดนโยบายจากฝั่งรัฐบาล พึ่งพาดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพื่อวัดความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ข้อมูลนี้ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับนโยบายการคลังและนโยบายการเงินที่สามารถกระตุ้นหรือรักษาเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ


ธุรกิจติดตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสภาวะตลาดและวางแผนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นมักจะแปลเป็นการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ 


นักการตลาดใช้ข้อมูลความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสำหรับแคมเปญโฆษณาที่กำหนดเป้าหมาย เมื่อเข้าใจถึงสิ่งที่ขับเคลื่อนพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงเศรษฐกิจต่าง ๆ  พวกเขาสามารถปรับแต่งข้อความและโปรโมชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นักวิจัยศึกษาการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อระบุรูปแบบที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการตัดสินใจของบุคคลหรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการออมและการใช้จ่าย


เทรดเดอร์ใช้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของตลาดหุ้น เมื่อผู้บริโภครู้สึกดีเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของตน ก็มีแนวโน้มที่จะลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ มากขึ้น


การใช้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคขยายไปไกลเกินกว่าที่เราจะนึกถึงได้ แต่สุดท้ายแล้วเราทุกคนอยู่ในวงจรเศรษฐกิจเดียวกัน ข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายของรัฐบาล กลยุทธ์ทางธุรกิจ การตัดสินใจของนักลงทุน และกลยุทธ์ทางการตลาด ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการบริโภค

นอกจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแล้ว ยังมีดัชนีอื่น ๆ อีกมากมายที่ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับรูปแบบการบริโภคของประชาชนและแนวโน้มเศรษฐกิจ ดัชนีเหล่านี้ช่วยให้นักเศรษฐศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายประเมินสุขภาพของเศรษฐกิจ ตลอดจนระบุความเสี่ยงหรือโอกาสที่อาจเกิดขึ้น


ดัชนีหนึ่งดังกล่าวคือรายงานยอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) ซึ่งวัดยอดขายรวมที่สถานประกอบการค้าปลีกของอุตสาหกรรมต่าง ๆ  รายงานนี้แสดงภาพรวมของพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค และสามารถระบุได้ว่าผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง รายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งมักจะบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ในขณะที่การลดลงอาจส่งสัญญาณถึงการชะลอตัว


อีกดัชนีที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคคือรายงานรายได้ส่วนบุคคลและค่าใช้จ่าย (Personal Income and Expense Statement) ซึ่งจะติดตามระดับรายได้ส่วนบุคคลและรูปแบบการใช้จ่ายของบุคคล ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลนี้ นักเศรษฐศาสตร์สามารถระบุได้ว่าผู้คนมีรายได้แบบใช้แล้วทิ้งมากน้อยเพียงใด และพวกเขาเลือกที่จะจัดสรรอย่างไร โดยทั่วไปรายได้ที่สูงขึ้นจะนำไปสู่การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ


อีกตัวอย่าวหนึ่งคือ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย หรือ The Housing Market Index (HMI) เป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคของประชาชน ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับสภาวะตลาดในปัจจุบันสำหรับบ้านเดี่ยวที่สร้างใหม่ คะแนน HMI ที่สูงขึ้นบ่งชี้ว่าเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์มีความมั่นใจมากขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัย ทำให้พวกเขาเพิ่มกิจกรรมการก่อสร้าง


ดัชนีที่สะท้อนถึงการบริโภคเหล่านี้เสนอมุมมองเสริมเกี่ยวกับแนวโน้มการบริโภคของประชาชนควบคู่ไปกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ด้วยการตรวจสอบตัวบ่งชี้หลายตัวร่วมกัน ในฐานะเทรดเดอร์ผู้มองหาโอกาสจากตลาดการเงิน จะสามารถมีข้อมูลที่เพียงพอต่อการวางแผนให้รับกับแนวโน้มตลาดได้

เทรด Forex อย่างไรท่ามกลางการเงินสหรัฐฯ ไม่มั่นคง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมืออันมีค่าในการทำความเข้าใจความรู้สึกสาธารณะและแนวโน้มเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสามารถให้โอกาสแก่เทรดเดอร์ในการเทรด Forex อีกด้วย ด้วยการติดตามการเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เทรดเดอร์ Forex สามารถรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในค่าสกุลเงิน โดยเฉาะอย่างยิ่งกับคู่เงินที่เกี่ยงข้อกับ USD


เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ในฐานะเทรดเดอร์ Forex คุณต้องติดตามรายงานเกี่ยวกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วมกับดัชนีชี้วัดการบริโภคอื่น ๆ มองหาการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อาจส่งผลต่อการประเมินมูลค่าสกุลเงิน


นอกจากนี้ ให้ความสนใจกับวิธีที่ธนาคารกลางตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพภายในระบบเศรษฐกิจโดยการปรับอัตราดอกเบี้ยหรือดำเนินนโยบายการเงินตามเงื่อนไขที่เป็นอยู่ การเปลี่ยนแปลงโดยธนาคารกลางสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อสกุลเงินหนึ่ง ๆ และอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ


แม้ว่าการใช้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเทรด Forex อาจเป็นประโยชน์ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่ควรพึ่งพาตัวบ่งชี้ใดเพียงตัวเดียว จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ  (เช่น ตัวเลขการจ้างงานหรือ GDP) และแนวโน้มของตลาดโลกก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อขายใด ๆ


การทำความเข้าใจถึงความสำคัญของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและโอกาสที่เป็นไปได้สำหรับเทรดเดอร์ในตลาดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรดเดอร์ Forex ที่แสวงหาการซื้อขายที่ทำกำไรบนการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เทรดเดอร์สามารถติดตามข่าวสารและติดตามความรู้สึกของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดและปรับให้เข้ากับระบบเทรดส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ไม่ยาก

முதலீட்டாளர்கள் டிரேடிங் உலகில் வளர உதவ போனஸ் சலுகை!

டெமோ வர்த்தக செலவுகள் மற்றும் கட்டணங்கள்

உதவி தேவையா?

7×24 H

APP பதிவிறக்கம்
மதிப்பீட்டு ஐகான்

செயலியை பதிவிறக்குங்கள்